จากบทความก่อนหน้านี้ เราได้ทราบรูปแบบการเรียนรู้ว่ามีอยู่ 4 รูปแบบ ตามแนวคิดของHoney and Mumford Learning Style Model ผู้เรียนแต่ละลักษณะจะมีการแสดงออกที่แตกต่างกันตามนี้ค่ะ
1. นักกิจกรรม (Activists) ชอบประสบการณ์ใหม่ กระตือรือร้น ชอบทำงานเป็นทีม
2. นักตรึกตรอง (Reflectors) ชอบเก็บข้อมูล มีเวลาในการคิด คิดละเอียดก่อนตัดสินใจ
3. นักทฤษฎี (Theorist) คิดเป็นขั้นเป็นตอน มีเหตุมีผล มีโครงสร้างชัดเจน ชอบความสมบูรณ์แบบ
4. นักปฏิบัติ (Pragmatists) ชอบแนวคิดที่นำมาใช้งานได้จริง กระตือรือร้นในการทำสิ่งต่างๆให้ได้ผลออกมา
การที่นักพัฒนาหลักสูตรเข้าใจลักษณะการเรียนรู้แต่ละแบบเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมีผลในยามที่เราออกแบบหลักสูตร เรามักจะเผลอออกแบบวิธีการเรียนรู้ในอย่างที่เราชอบ หรืออยากลองวิชาความรู้ที่เพิ่งได้ทราบมา หรือเห็นเขาทำกันแล้วดี โดยลืมดูลักษณะของผู้เรียนว่ารูปแบบการเรียนรู้ที่เราออกแบบนั้น มึความเหมาะสมกับผู้เรียนหรือไม่เพื่อสร้างแรงจูงใจและส่งเสริมให้การเรียนรู้เกิดขึ้นอย่างได้ผล
ในอีกมิติหนึ่ง เป็นที่น่าสนใจเช่นกันว่าแล้วในมุมของวิทยากรกับรูปแบบการเรียนรู้ทั้ง4 รูปแบบนี้ ลักษณะของวิทยากรแต่ละแบบจะเป็นอย่างไรนะคะ เราลองมาดูกันค่ะ
ลักษณะการเรียนรู้
|
แนวโน้มพฤติกรรม
|
นักกิจกรรม (Activists)
|
เต็มไปด้วยพลังและกระตือรือร้น
|
ใช้กิจกรรมที่เน้นการมีส่วนร่วมสูง
| |
มีการนำเสนอที่สร้างความเพลิดเพลินสนุกสนาน
| |
ใช้อารมณ์ขันให้ผู้เข้าอบรมสนุกสนาน ร่าเริง
| |
ใช้สิ่งแปลกใหม่ในการดึงความสนใจผู้เข้าอบรม
| |
ตอบสนองอย่างเป็นธรรมชาติ
| |
กระตุ้นให้มีการระดมความคิดเห็น
| |
สร้างแรงบันดาลใจ
| |
ทำงานได้ดีกับคนที่มีความมุ่งมั่นพยายาม
| |
นักตรึกตรอง(Reflectors)
|
ช่วยผู้เรียนให้ตรึกตรองและสะท้อนออกมา
|
กระตุ้นให้ผู้เรียนอภิปรายการเรียนรู้
| |
ไม่ให้คำตอบโดยทันที
| |
ถามคำถามปลายเปิด
| |
สังเกตการณ์อยู่ด้านหลัง
| |
ช่วยผู้เรียนหาทางเลือกที่หลากหลาย
| |
คาดหวังว่าผู้เรียนจะเตรียมงานมาก่อน
| |
ทำงานได้ดีกับผู้เรียนที่คิดละเอียดรอบคอบ
| |
นักทฤษฎี (Theorists)
|
เคร่งครัดกับตารางเวลา
|
มีความคิดเชิงระบบ
| |
ถามคำถามที่เจาะลงไปยังปัญหาเรื่อยๆ
| |
ช่วยให้ผู้เรียนกลายเป็นผู้มีความรู้เพิ่มมากขึ้น
| |
สะกดคำ หรือพูดสิ่งต่างๆ ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
| |
กระตุ้นให้ผู้เรียนวิเคราะห์ความจริงและข้อมูล
| |
เน้นรายละเอียด ความถูกต้อง
| |
สำรวจความคิดเห็น ทฤษฎีและรูปแบบ
| |
ทำงานได้ดีที่สุดกับผู้เรียนที่ท้าทายและมีคำถาม
| |
นักปฏิบัติ (Pragmatists)
|
กระตุ้นผู้เรียนให้ทดลอง
|
ใช้วิธีการเชิงปฏิบัติการ
| |
ให้เคล็ดลับและการบอกใบ้เป็นนัยๆ
| |
แชร์เทคนิคพิเศษ และสิ่งที่เป็นรูปธรรม
| |
ใช้สถานการณ์จำลองที่เป็นเรื่องจริง
| |
ช่วยให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะ
| |
เน้นความสำคัญของการวางแผนปฏิบัติ
| |
ทำงานได้ดีกับคนที่เน้นการปฏิบัติงาน นำสิ่งต่างๆมาใช้การทำงานได้จริง
| |
เมื่อดูแต่ละลักษณะของวิทยากรแล้วล้วนดีและเป็นประโยชน์ทั้งนั้นนะคะ ดังนั้นหลักสูตรฝึกอบรมควรผสมผสานหลายรูปแบบจึงจะเกิดประสิทธิภาพ แต่ถ้าเราชอบรูปแบบใดมากๆ อาจจะ1 หรือ 2 รูปแบบ อาจจะเน้น 1 หรือ 2 รูปแบบนั้น และนำรูปแบบอื่นเข้ามาสร้างความสมดุลย์ให้กับหลักสูตรที่เราออกแบบก็ได้
เคล็บลับเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับการนำรูปแบบการเรียนรู้มาใช้:
o รู้ตัวเราเองว่าเราชอบรูปแบบการเรียนรู้แบบไหนแล้ว แล้วพยายามผสมผสานรูปแบบอื่นๆในการออกแบบหลักสูตร มากกว่าจะเน้นเพียงรูปแบบการเรียนรู้ที่เราชอบอย่างเดียว
o ชัดเจนในรูปแบบการเรียนรู้ที่เรากำหนดในการฝึกอบรม และแจ้งให้ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจว่าคนเราเรียนรู้ในรูปแบบที่แตกต่างกันและในการฝึกอบรมนี้ได้ออกแบบโดยมีวิธีการเรียนรู้ที่หลากหลายเพื่อผู้เรียนทุกคนที่มีรูปแบบการเรียนรู้ที่ต่างกันจะสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
o ช่วงการฝึกอบรม สังเกตว่ารูปแบบไหนจะดึงดูดผู้เรียนบ้าง เราสามารถปรับวิธีการฝึกอบรมของเราได้
o เมื่อใช้เทคนิคการระดมสมอง เทคนิคนี้เหมาะกับนักตรึกตรอง ควรให้ทราบคำถามล่วงหน้าเพื่อบุคคลกลุ่มนี้จะมีเวลาในการเตรียมและคิดก่อน
o จัดให้มีเวลาในการสะท้อนสิ่งที่ได้เรียนรู้
o บูรณาการรูปแบบการเรียนรู้ที่หลากหลาย ทำให้ใช้ง่ายและเหมือนกับการละลายพฤติกรรม ลดความตึงเครียดของผู้เรียน
o การทบทวนซ้ำเป็นส่วนสำคัญของการเรียนรู้ ควรมีการพูดซ้ำในเนื้อหาหลักตลอดการฝึกอบรม คือ มีการทบทวนและฝึกซ้ำนั่นเอง
การออกแบบหลักสูตร ไม่ได้เป็นสิ่งยากเลยนะคะ ถ้าเราเข้าใจองค์ประกอบทั้งหลายที่ส่วนเกี่ยวข้องในการทำให้การออกแบบหลักสูตรของเรามีประสิทธิภาพ นอกจากรูปแบบการเรียนรู้แล้ว ยังมีองค์ประกอบอื่นๆ ที่สำคัญด้วยนะคะ ซึ่งจะมานำเสนอในบทความต่อๆ ไป
Reference
Tom Bird and Jeremy Cassell, Financial Times Guides to Business Training. First published, 2013
Reference
Tom Bird and Jeremy Cassell, Financial Times Guides to Business Training. First published, 2013
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น