วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2562

รูปแบบการเรียนรู้ (Learning Styles) : คนเราเรียนรู้อย่างไร


คนเราเรียนรู้ด้วยวิธีใดบ้าง เป็นสิ่งที่นักการศึกษา และนักวิชาการสนใจมานานนะคะ โดยปี 1970 มีนักการศึกษานามว่า David A. Kolb ได้ศึกษารูปแบบการเรียนรู้โดยมีพื้นฐานมาจากทฤษฎีการเรียนรู้โดยประสบการณ์ หลังจากนั้น Peter Honey และ Alan Mumford ได้ศึกษาและปรับโดยมีฐานแนวคิดจากKolb Model  นอกจากนี้ยังมี Anthony Gregorc และ Neil Fleming เจ้าของ The VARK model ที่เกี่ยวกับ neuro-linguistic programmingอีกด้วย  เราได้ข้อสรุปจากการศึกษาค้นคว้า งานวิจัยจากนักวิชาการเหล่านี้ว่า คนเรามีรูปแบบการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน 
หากเราเป็นนักจัดการเรียนรู้ นักจัดฝึกอบรม นักพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ข้อค้นพบนี้น่าสนใจมาก นั่นหมายถึงบุคคลที่คุณจะพัฒนา เขาเหล่านั้นมีประสบการณ์  มีสิ่งที่ทำให้เขาเกิดความพึงพอใจไม่เหมือนกัน และในพัฒนาหรือจัดฝึกอบรมทุกครั้งจะมีผู้เรียนที่มีวิธีการเรียนรู้ที่แตกต่างกันนั่นเอง แล้วเราจะจัดการเรียนรู้อย่างไรเมื่อคนเรามีรูปแบบการเรียนรู้ทีแตกต่างกัน  ก่อนอื่นเริ่มจากเราต้องเข้าใจก่อนว่า คนเราเรียนรู้กันอย่างไรนะคะ

คนเราเรียนรู้อย่างไร (How people learn)
วิธีการเรียนรู้จะมีอยู่ ขั้นหลักๆ เราลองเปรียบเทียบการเรียนรู้วิธีการขับรถกับขั้นตอนเหล่านี้เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นดังนี้


Source:Adapted from the 4 stages of learning any new skill, by Noel Burch, Gordon Training International
1.     Unconscious Incompetence  (ไม่รู้ว่า “ตนเอง” ไม่รู้  เมื่อตอนที่เรายังเด็ก เวลาที่เราจะไปไหน พ่อแม่จะพาเราใส่รถ แล้วเราก็จะไปปรากฏตัวในสถานที่นั้น  เราเด็กเกินกว่าที่จะตระหนักรู้หรือสนใจทักษะที่เรียกว่าการขับรถ” แล้วเราก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร  เราจึงอยู่ในภาวะที่เรียกว่า “ไม่รู้ว่า ตนเอง ไม่รู้”
อะไรก็ตามที่เราเรียนรู้ โดยเริ่มจากจุดนี้ จะไม่มีแรงจูงใจในการเรียนรู้เพราะไม่ตระหนักเห็นประโยชน์ของสิ่งนั้น
2.    Conscious Incompetence  (รู้ว่าตนเอง” ไม่รู้) เมื่อเราโตขึ้น รู้จักอะไรมากขึ้น และเรารู้จักการขับรถ เห็นประโยชน์และความจำเป็น แต่ไม่รู้ว่าจะขับอย่างไร (รู้ว่าขับรถไม่เป็น) ดังนั้นในขั้นนี้เราจึงต้องการเรียนรู้
3.    Conscious Competence (รู้ว่าตนเองรู้ขณะที่เราเรียนรู้การขับรถ เราต้องใส่ใจและพยายามเรียนรู้การเปลี่ยนเกียร์ การบังคับรถให้ได้ดีที่สุด การเรียนรู้อย่างรู้ตัวและตั้งใจจึงเกิดขึ้นในขั้นนี้ 
หมายความว่าขณะที่เราเรียนรู้สิ่งใหม่อาจมีสิ่งที่อึดอัด เพราะตอนนั้นเรายังไม่เก่งหรือเชี่ยวชาญพอ ผู้ใหญ่ไม่ชอบความรู้สึกอึดอัดนี้ จึงพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการเรียนรู้ ความรู้หรือทักษะใหม่ๆ  นักพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ต้องอดทนและเข้าใจธรรมชาตินี้ และพยายามกระตุ้นและจูงใจผู้เรียนให้มีความต้องการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
4.   Unconscious Competence (ไม่รู้ว่าตนเอง” รู้)  เมื่อเราขับรถเป็นซักระยะหนึ่งแล้ว เรามาถึงจุดที่เราไม่ต้องกังวลหรือระมัดระวังอย่างมากเกี่ยวกับการเปลี่ยนเกียร์ การบังคับรถ  เราขับได้อย่างอัตโนมัติและเป็น 
       ธรรมชาติ   ความท้าทายคือเมื่อมาถึงจุดนี้จะไม่เกิดการเรียนรู้หรือการ
       พัฒนาอะไรเพิ่มเติมอีก

                 เมื่อเราได้เข้าใจกระบวนการเรียนรู้นี้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะการเรียนรู้ส่วนมากในองค์กรมักเป็นแบบไม่รู้ตัว (Unconciously) ปัญหาที่ตามมาคือ
o  ผู้เรียนไม่รู้ว่าต้องเรียนรู้อะไร
o  ผู้เรียนไม่สามารถแชร์ความรู้ที่มีกับผู้อื่น ดังนั้นจึงไม่สามารถช่วยเหลือผู้อื่นให้เกิดการเรียนรู้ได้
o  ผู้เรียนไม่สามารถปรับปรุงกระบวนการเรียนรู้ของตนเองได้เลย


            หากเราทำให้การเรียนรู้เป็นสิ่งที่รู้ว่า   "ตัวเอง ไม่รู้" (Conscious Incompetence) จะช่วยเรื่องการพัฒนาคนได้มาก   ตอนนี้เราเข้าใจมากขึ้นแล้วว่าเหตุใดพนักงานในองค์กรหลายๆคน ไม่ชอบเรียนรู้หรือเปลี่ยนแปลงพัฒนาสิ่งใหม่เพื่อผลงานที่ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะอาจยังมองไม่เห็นประโยชน์ แล้วยังสร้างความอึดอัดให้อีกด้วย   สิ่งที่ทำอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน  จึงเป็นการทำโดยนิสัย กับความสามารถเดิมๆ ที่มีอยู่ นักพัฒนาทรัพยากรมนุษย์จึงต้องหาวิธีการในการสื่อสารและจูงใจให้เห็นประโยชน์ของการพัฒนาความรู้ ทักษะ ความสามารถอยู่เสมอ และให้เกิดการเรียนรู้ในขั้นที่ และ 3นั่นเอง

Reference
Tom Bird and Jeremy Cassell,Financial Times Guides to Business Training, First published, 2013

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม