มีความเห็นที่หลากหลายสำหรับการประเมินผลแบบ 360 องศา ว่าควรจะประเมินในลักษณะนี้หรือไม่ บางท่านก็เห็นว่าเป็นสิ่งดีเพราะได้มุมมองรอบด้าน ในการทำงานและการแสดงพฤติกรรมนั้น หัวหน้างานอาจมองไม่เห็นทุกมุม ดังนั้นการให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับพนักงานได้มีโอกาสร่วมประเมินน่าจะได้ข้อเท็จจริงมากขึ้น
และอีกหลายแนวคิดที่เห็นว่าไม่ควรให้ผู้ใดประเมินเลยแม้แต่ตัวพนักงานเอง นอกจากหัวหน้าเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่น่าปวดหัวอีกมากมายตามมา จริงๆ ควรเป็นอย่างไรกันแน่!!!
เรามาทำความเข้าใจความหมายก่อนนะคะว่าการประเมินแบบนี้คืออะไร
การประเมิน 360 องศาคือ การประเมินที่ครบวงจร ทั้งจากล่างขึ้นบนและบนลงล่าง โดยมีบุคคลที่เห็นพฤติกรรมของผู้ถูกประเมินหลากหลาย เช่น หัวหน้างาน ผู้บังคับบัญชาที่สูงกว่าหัวหน้างานโดยตรงอีก1 ระดับ เพื่อนร่วมงาน ผู้ใต้บังคับบัญชา ลูกค้า ที่ปรึกษา และตัวพนักงานเอง
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ต้องตระหนัก คือ การประเมินแบบ 360 องศานี้เราประเมินเพื่อให้ทราบจุดแข็งและจุดอ่อนเท่านั้นค่ะ วัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยพัฒนาทักษะและพฤติกรรมในการทำงานของพนักงาน โดยผสมผสานการให้ข้อมูลย้อนกลับจากหลากหลายแหล่ง ทำให้เราสามารถเห็นภาพของคนนั้นได้อย่างชัดเจนรอบด้านนั่นเอง
แล้วประโยชน์ที่ได้จากการประเมินแบบนี้มีอะไรบ้าง
§ การประเมินที่สมบูรณ์มากขึ้นเพราะเราเก็บข้อมูลจากหลายแหล่งทำให้การประเมินมีความเที่ยงตรง ภาพของคนนั้นจะชัดเจนมากขึ้นว่าควรต้องเน้นจุดใดบ้าง การที่เพื่อนร่วมงานและลูกค้าให้ข้อมูลย้อนกลับในมุมที่หัวหน้างานไม่เห็น นั่นคือการได้ภาพที่สมบูรณ์เกี่ยวกับจุดแข็งและจุดอ่อนที่ชัดเจนมากขึ้น
§ ได้ทีมงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพราะทุกคนรู้จุดแข็งและจุดอ่อนตนเอง รวมถึงพฤติกรรมที่จำเป็นใน การทำงาน จึงมีการพัฒนาและปรับพฤติกรรมให้กลายเป็นเพื่อนร่วมทีม และทีมงานที่สร้างผลผลิตได้มากขึ้นและทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข
§ เห็นว่าผู้อื่นมองเราอย่างไรจริงๆ แล้วเป็นเรื่องดีมากที่เราทราบว่าคนอื่นมองเราอย่างไร ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้แสดงความรู้สึกซึ่งกันและกัน แต่ก่อนอื่นต้องสร้าง Growth mindset ให้เกิดขึ้นกับพนักงานก่อนว่ากิจกรรมนี้คือโอกาสที่จะได้พัฒนาและเติบโตต่อไป
§ การให้ข้อมูลย้อนกลับที่บ่อยขึ้นจะทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่พบในการทำงานคือเรามีการให้ข้อมูลย้อนกลับกันน้อยมาก การประเมิน 360 องศาทำให้เราได้ข้อมูลที่สำคัญและยังสร้างความรู้สึกยุติธรรมในการประเมินเพราะมาจากหลายแหล่งนั่นเอง
ข้อควรระวังจากการประเมินด้วยวิธีนี้
แม้วิธีนี้จะมีข้อดีมากมายแต่ข้อควรระวังก็มีนะคะ การนำวิธีการประเมินนี้มาใช้หากวัฒนธรรมองค์กรของเราไม่เข้มแข็งเรื่องทีมและการไว้วางใจซึ่งกันและกันยังไม่มาก ผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่ดีอย่างที่ตั้งใจ ผลเสียที่ได้กลับมีมากกว่าค่ะ เพราะสิ่งที่ได้กลับมาคือ
§ สร้างวัฒนธรรมในเชิงลบ feedback เชิงลบที่ได้จะสร้างความรู้สึกไม่พึงพอใจภายในทีม จนทำให้พนักงานโกรธเพื่อนร่วมงานหรืออาจโกรธลูกค้าไปเลยก็ได้
§ ผลการประเมินอาจไม่ตรงตามความเป็นจริง feedback ที่ได้รับอาจไม่ถูกต้อง100% เพราะไม่กล้าแสดงความรู้สึกที่แท้จริงกลัวเพื่อนเสียใจเพราะสนิทกันมาก ยิ่งถ้าเป็นกลุ่มเล็ก ไม่ใหญ่มากอาจไม่ค่อยมีคนกล้าให้ข้อมูลจริงมากนัก อีกทางหนึ่งถ้าเป็นกลุ่มใหญ่มาก ผู้ที่ประเมินเราจะทราบดีหรือไม่ว่าเราเป็นอย่างไร
§ เน้นที่จุดอ่อนมากเกินไป ในการประเมินอาจจะมีการให้ข้อมูลในส่วนที่เป็นจุดอ่อนมากเกินไป จนไม่ให้ความสำคัญกับจุดแข็ง ซึ่งบั่นทอนกำลังใจของผู้ถูกประเมินมาก เราจึงควรให้มีการประเมินจุดแข็งด้วยเพื่อนำมาพัฒนาและนำสิ่งนั้นมาพัฒนาต่อยอดให้ดียิ่งขึ้น
หลายองค์กรนำวิธีนี้มาประเมินในส่วนเฉพาะ competencyเพื่อใช้ในการพัฒนาอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งกระบวนการก่อนการประเมินที่สำคัญอีกประการคือการสื่อสารสร้างทัศนคติเชิงบวกให้พนักงานทราบถึงข้อดี และวิธีการประเมินที่ถูกต้อง ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะสามารถนำมาใช้พัฒนาพนักงานให้มีความสามารถมากขึ้นได้ค่ะ